1. ช่วงเวลาการใช้งาน
Peak Period: ช่วงเวลาที่ค่าไฟแพงที่สุด เช่น ในวันทำงานตั้งแต่เช้าถึงเย็น
Off-Peak Period: ช่วงเวลาที่ค่าไฟถูกที่สุด เช่น ช่วงกลางคืนหรือวันหยุด
Shoulder Period (ถ้ามี): ค่าไฟอยู่ระหว่าง Peak และ Off-Peak มากกว่า 22 kW
2. การคิดค่าไฟ
ค่าไฟในแต่ละช่วงเวลาจะถูกคำนวณตามหน่วยการใช้ไฟฟ้า (kWh) คูณด้วยอัตราค่าไฟที่กำหนดในช่วงเวลานั้น
1. เหมาะสำหรับ
ผู้ที่สามารถจัดการเวลาการใช้ไฟฟ้าได้ เช่น ย้ายการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหนักๆ (เช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องปรับอากาศ) ไปยังช่วง Off-Peak
ธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้ามากในช่วงเวลาที่มีค่าไฟแพง (Peak)
ครัวเรือนหรือสำนักงานที่มีกิจกรรมหลักในช่วง Off-Peak
2. ไม่เหมาะสำหรับ
ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากในช่วง Peak และไม่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานได้
ธุรกิจที่มีกิจกรรมหลักในช่วงเวลาทำงานปกติ (9.00 - 17.00 น.)
ข้อดีของ TOU Meter
ประหยัดค่าไฟ: หากปรับการใช้งานไฟฟ้ามาอยู่ในช่วง Off-Peak
ลดความแออัดของระบบไฟฟ้า: ช่วยกระจายการใช้ไฟฟ้าจากช่วง Peak
ส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียของ TOU Meter
ความยุ่งยากในการจัดการเวลา: อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้งานบางประเภทที่ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟได้
ค่าไฟแพงในช่วง Peak: หากไม่ปรับพฤติกรรมการใช้ไฟ ค่าไฟอาจสูงกว่ามิเตอร์แบบปกติ
เลือก TOU Meter อย่างไรให้เหมาะสม
1. ความยุ่งยากในการจัดการเวลา: อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้งานบางประเภทที่ไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟได้
2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้า: หากสามารถเปลี่ยนไปใช้ในช่วง Off-Peak ได้ จะช่วยลดค่าใช้จ่าย
3. ขอข้อมูลจากผู้ให้บริการไฟฟ้า: ตรวจสอบอัตราค่าไฟฟ้าและช่วงเวลา TOU ของพื้นที่ที่คุณอยู่
4. ทดลองใช้งาน TOU: หากคาดการณ์ว่าเหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานในปัจจุบัน
news & Announcements
มิเตอร์แบบ TOU (Time of Use) คือ มิเตอร์ไฟฟ้าที่คำนวณค่าไฟตามช่วงเวลาการใช้งาน (Time of Use) โดยมีการกำหนดอัตราค่าไฟที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา เช่น ช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (Peak) จะมีค่าไฟแพงกว่า ช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ (Off-Peak) ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้งานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย..
การเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าเป็น 3 เฟส ก่อนติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) มีเหตุผลที่สำคัญดังนี้ : ที่ชาร์จรถไฟฟ้า โดยเฉพาะแบบ Fast Charger ต้องการกำลังไฟฟ้าสูง (มากกว่า 7 kW ขึ้นไป) เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ในเวลาที่สั้นลง ระบบไฟฟ้า 3 เฟสช่วยกระจายโหลดไปยังแต่ละเฟสอย่างสมดุล ทำให้ลดปัญหาไฟตกหรือไฟเกินในระบบ..
ระบบ ไฟฟ้า 1 เฟส กับ 3 เฟส ต่างกันอย่างไร? ไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) และ ไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase) มีความแตกต่างกันในแง่ของโครงสร้าง ดังนี้ : ไฟฟ้า 1 เฟส มี 2 สาย: สายไฟฟ้าหนึ่งสาย (Line) และ สายกลางหรือสายศูนย์ (Neutral) ไฟฟ้า 3 เฟส มี 4 สาย: สายไฟฟ้า 3 สาย (Line) และ สายกลางหรือสายศูนย์ (Neutral)..
การใช้ไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase) สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า สามารถทำได้ แต่ต้องพิจารณาข้อจำกัดและความเหมาะสม ดังนี้ : การใช้ไฟฟ้า 1 เฟสชาร์จรถไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ประหยัดสำหรับการใช้งานทั่วไปในบ้าน แต่ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเลือกที่ชาร์จที่เหมาะสมเพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพค่ะ ..
ระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell System) คือ ระบบที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ หลักการทำงานของระบบคือ จะนำเอาพลังงานจากแสงของดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมายังพื้นโลกมาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยผ่านตัวกลางที่เรียกว่าแผงโซล่าเซลล์(Solar Panel) ซึ่งแผงโซล่าเซลล์ก็มีหลากหลายชนิด ต่างมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไปโดยพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากแผงโซล่าเซลล์...
ระบบโซล่าเซลล์แบบออนกริด (On-grid System) คือระบบที่ทำงานขนานร่วมกันกับไฟจากการไฟฟ้า เป็นระบบที่ผลิตมาและใช้ไป หลักการทำงานของระบบนี้คือ ในช่วงเวลากลางวันหรือช่วงที่มีแสงแดด ระบบจะผลิตไฟฟ้ากระแสตรงจากแผงโซล่าเซลล์ (Solar Panel) ผ่านอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ (Inverter) เพื่อแปลงไฟเป็นกระแสสลับ...
ระบบโซล่าเซลล์แบบออฟกริด (Off-grid / Stand Alone) คือระบบที่ทำงานแบบไม่พึ่งไฟจากการไฟฟ้า โดยทั่วไปจะใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ชาร์จประจุ (Solar Charger) และแบตเตอรี่ (Battery) หลักการทำงานของระบบนี้คือ ระบบจะผลิตไฟกระแสตรงจากแผงโซล่าเซลล์ต่อผ่านอุปกร์ชาร์จเจอร์ เพื่อชาร์จไฟลงไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ก่อน...